ประเทศอังกฤษ ทัวร์ยุโรปราคาประหยัด

1653 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ประเทศอังกฤษ ทัวร์ยุโรปราคาประหยัด

ยอร์คมินสเตอร์
มหาวิหารยอร์ก (อังกฤษ: York Cathedral) มีชื่อเป็นทางการว่า "มหาวิหารและคริสตจักรมหานครแห่งนักบุญเปโตรในกรุงยอร์ก" (The Cathedral and Metropolitical Church of St Peter in York) เป็นคริสต์ศาสนสถานประเภทมหาวิหารที่สร้างเป็นแบบกอธิคที่ใหญ่ที่เป็นที่สองรองจากมหาวิหารโคโลญในประเทศเยอรมนี ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป มหาวิหารยอร์กตั้งอยู่ที่เมืองยอร์กในยอร์กเชอร์ ทางตอนเหนือของ สหราชอาณาจักร เป็นโบสถ์ประจำตำแหน่งของของอาร์ชบิชอปแห่งยอร์กซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดในคริสตจักรแห่งอังกฤษรองจากอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรี มหาวิหารยอร์กถือกันว่าเป็น “high church” ของนิกายแองโกล-คาทอลิก (Anglo-Catholicism) ของคริสตจักรแองกลิคัน[1]มหาวิหารมีทางเดินกลางที่สร้างแบบกอธิควิจิตร (Decorated Gothic) และหอประชุมนักบวช บริเวณร้องเพลงสวดและทางด้านหลังเป็นแบบกอธิคแบบกอธิคสูง (Perpendicular Gothic) ทางด้านเหนือของแขนกางเขนเป็นแบบกอธิคอังกฤษตอนต้น ทางเดินกลางมีหน้าต่างเหนือบานประตูที่สร้างเมื่อ ค.ศ. 1338 และด้านตรงข้ามทางหลังวัดบริเวณชาเปลพระแม่มารีย์ มีหน้าต่างใหญ่ชื่อ “Great East Window” สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 1408 ซึ่งเป็นหน้าต่างประดับกระจกสีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทางด้านเหนือของแขนกางเขนมีหน้าต่างที่เรียกว่า “Five Sisters Window” แต่ละแกนของหน้าต่างสูงถึง 16 เมตร หรือประมาณ 9 ชั่วคน ทางด้านใต้เป็นหน้าต่างกุหลาบที่มีชื่อเสียงมาก

**************************************************************************
โอลด์แทรฟฟอร์ด
โอลด์ แทรฟฟอร์ด (อังกฤษ: Old Trafford) เป็นสนามกีฬาในเขตแทรฟฟอร์ดของเกรตเตอร์แมนเชสเตอร์ และเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สนามกีฬาเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1909 และเริ่มเปิดใช้ตั้งแต่วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1910 ซึ่งใช้มาตลอดยกเว้นในช่วง 8 ปี ที่สนามโดนระเบิดระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วง 1941-1949 [2]
โอลด์ แทรฟฟอร์ด ใน ปัจจุบัน เป็นสนามฟุตบอลซึ่งติดตั้งเก้าอี้หมดทุกพื้นที่ของสแตนด์ เป็นสนามที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของอังกฤษ ในแง่ของจำนวนแฟนบอลที่รองรับได้ ซึ่งมากถึง 76,212 คนเป็นรองแค่สนามกีฬาเวมบลีย์เพียงแห่งเดียว และใหญ่อันดับ 3 ของสหราชอาณาจักร ใหญ่เป็นอันดับ 11 ของทวีปยุโรป นอกจากนั้นยังเป็น 1 ใน 2 สนามในอังกฤษที่ยูฟ่ารับรองเป็นสนาม 5 ดาว[ต้องการอ้างอิง]
ชื่อเรียกที่แฟนบอลคุ้นหูและเร้าอารมณ์ว่า "โรงละครแห่งความฝัน" นั้น คนแรกที่แรกที่เรียกชื่อนี้คือ เซอร์ บ็อบบี ชาร์ลตัน บุคคลระดับตำนานของสโมสรนั่นเอง
สนามโอลด์แทรฟฟอร์ดนี้มักจะถูกใช้เป็นสนามในการแข่งขันเอฟเอคัพรอบรองชนะเลิศ และเป็นสนามหลักในการแข่งขันหลายอย่างในขณะที่สนามกีฬาเวมบลีย์อยู่ในระหว่างการปรับปรุง นอกจากนี้ยังได้เป็นสนามแข่งขันนัดสำคัญหลายอย่าง ไม่ว่า ฟุตบอลโลก 1966 หรือแชมเปียนส์ลีก 2003 และจะถูกใช้แข่งขันฟุตบอลในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ที่กรุงลอนดอนเป็นเจ้าภาพ

**************************************************************************
จัตุรัสทราฟัลการ์
จัตุรัสทราฟัลการ์ (อังกฤษ: Trafalgar Square) เป็นสถานที่แห่งหนึ่งในใจกลางกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นอนุสรณ์สถานของสงครามทราฟัลการ์หรือสงครามวอเตอร์ลูระหว่างอังกฤษกับฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1805 มีอนุสาวรีย์นายพลเนลสัน และล้อมรอบด้วยอาคารสำคัญ เช่น พิพิธภัณฑ์ศิลปะ โบสถ์เซนต์มาร์ตินอินเดอะฟีลด์ นอกจากนี้จัตุรัสทราฟัลการ์ เป็นสถานที่ที่ใช้ในการประท้วงและงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ หลายหน
จัตุรัสประกอบด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ใจกลางมหานครลอนดอน ห้อมล้อมด้วยถนนทั้ง 3 ด้าน และมีบันไดกลางขนาดใหญ่ที่จะนำไปสู่หอศิลป์แห่งชาติในด้านที่ 4 ของจัตุรัส และยังมีถนนตัดผ่านซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข A4 ซึ่งถนนที่ห้อมล้อมทั้งหมดใช้ระบบการจราจรรถวิ่งทางเดี่ยว (One-way traffic system) นอกจากนี้ยังมีทางลอดไปยังสถานีแชริ่ง ครอส เพื่อ ไม่ให้เป็นปัญหาการจราจรติดขัดและอันตรายจากการจราจรอันคับคั่งของผู้คนตาม ท้องถนน ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้สำนักงานโยธาของนครลอนดอนได้ลดขนาดช่องทางการจราจรและ ปิดถนนในฝั่งเหนือลง เสาปูนเนลสันตั้งอยู่ตรงการของจัตุรัสและรายล้อมไปด้วยน้ำพุอันสวยงานซึ่งถูกออกแบบในปี ค.ศ. 1939 โดย เซอร์ เอ็ดวิน ลุตเย็นส์ (ย้ายน้ำพุสองอันที่สร้างมาก่อนหน้านี้ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ ณ วาสคานา เซ็นเตอร์ ในสวนคอนเฟดเดอเรชั่น ปาร์ค, กรุงออตตาวา, ประเทศแคนาดา) และรูปแกะสลักสิงโตบรอนซ์ของ เซอร์ เอ็ดวิน แลนเซียร์ ส่วนโลหะได้มาจากการรีไซเคิลของปืนใหญ่ของฝรั่งเศส ซึ่งด้านบนสุดของเสาหินคือรูปแกะสลักของ พลเรือเอกโฮเรทิโอ เนลสัน ผู้ที่บัญชาการนำในการรบที่สมรภูมิทราฟัลการ์ ซึ่งน้ำพุฝั่งตะวันตกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่ ลอร์ด เจลลิซโค ส่วนฝั่งตะวันออกอุทิศให้แก่ ลอร์ด บีทตี้ สถานที่ที่รายล้อมจัตุรัสได้แก่ ด้านเหนือของจัตุรัสคือหอศิลป์แห่งชาติ ด้าตะวันออกคือโบสถ์ เซนต์ มาร์ติน-อิน-เดอะ-ฟีลดส์ และยังมีทางเชื่อมไปยังห้างสรรพสินค้าและแอดมิแรลทิ อาร์ชซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ ด้านใต้คือไวท์ ฮอลล์ ด้านตะวันออกคือถนนสแตรนด์กับบ้านแอฟริกาใต้ ด้านตะวันตกคือบ้านแคนาดาณ หัวมุมของจัตุรัสคือฐานของเสาหินทั้งสี่ สองฐานอยู่ทางด้านเหนือ อีกหนึ่งเป็นฐานของอนุสาวรีย์คนขี่ม้า ซึ่งมีขนาดกว้างกว่าอีกสองอันที่อยู่ด้านทิศใต้ โดยมีสามอันที่เป็นฐานให้แก่อนุสาวรีย์ของ: สมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 4 (ด้านตะวันออกเฉียงเหนือสร้างในช่วงทศวรรษที่ 1840) เฮนรี แฮฟลอค (ด้านตะวันออกเฉียงใต้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1861 โดย วิลเลี่ยม เบ็นช์) และ เซอร์ ชาร์ลส์ เจมส์ เนปิแอร์ (ด้านตะวันตกเฉียงใต้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1955) ซึ่งนายกเทศมนตรีแห่งลอนดอน เคน ลิฟวิงสโตน ได้เคยแสดงความคิดเห็นที่ประสงค์จะให้รูปปั้นผู้พันทั้งสองสลับที่กับอนุสาวรีย์ซึ่งเขากล่าวไว้ว่า
บนสนามหญ้าหน้าหอศิลป์แห่งชาติ มีอนุสาวรีย์สองรูปตั้งอยู่คืออนุสาวรีย์ของสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 2 ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของทางเข้าหอศิลป์ อีกรูปคืออนุสาวรีย์ของ จอร์จ วอชิงตัน ซึ่งเป็นของขวัญให้แก่อังกฤษมาจากรัฐเวอร์จิเนียซึ่งถูกทำขึ้นที่สหรัฐอเมริกา จัตุรัส กลายมาเป็นจุดรวมตัวทางสังคม ศิลปะ วัฒนธรรม การเมืองและเศรษฐกิจสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและชาวลอนดอนเองอย่างรวดเร็ว ดังบทความเขียนของ รอดนีย์ แมคที่เขียนไว้ว่า

**************************************************************************
เอดินบะระ
เอดินบะระ[1] (อังกฤษ: Edinburgh /ˈɛdɪnb(ə)rə/ เอดินเบอระ; แกลิกสกอตแลนด์: Dun Eideann, บางคนอ่าน/เขียนผิดเป็น: เอดินเบิร์ก) เป็นเมืองหลวงของแคว้นสกอตแลนด์ สหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของสกอตแลนด์ เป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคกลาง ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงอยู่กลางเมือง เป็นที่ตั้งของปราสาทเอดินบะระอันเป็น ทำเลที่ได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์ในสมัยก่อน โดยรอบภูเขาถูกปรับพื้นที่เป็นคูเมืองเพื่อประโยชน์ในเชิงการทหาร รอบนอกเป็นที่ราบลดหลั่นเป็นขั้น ๆ กระจายออกโดยรอบ
เอดินบะระเป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งใหม่ของสกอตแลนด์ (เพิ่งแยกออกมาจากรัฐสภาของสหราชอาณาจักร) ตั้งอยู่บนถนนสายหลักของเอดินบะระคือ รอยัลไมล์ (The Royal Mile) ซึ่งสร้างตามแนวสันเขาเชื่อมโยงพื้นที่ประวัติศาสตร์ระหว่างปราสาทเอดินบะระ และพระราชวัง สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ บริเวณรอยัลไมล์ ปราสาทเอดินบะระ และสวนพฤกษศาสตร์ โดยเฉพาะปราสาทเอดินบะระเป็นปราสาทที่เป็นสถานที่เปิดตัวของหนังสือเรื่องแฮรี่ พอตเตอร์ เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงฉากเมืองแม่มดในท้องเรื่อง
เอดินบะระ เป็นเมืองที่เจริญมากที่สุดเมืองหนึ่งในสหราชอาณาจักร มีศูนย์กลางเมืองตั้งอยู่รอบ ๆ ปราสาทเอดินบะระ เมืองเอดินบะระนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งเทศกาลต่าง ๆ ตัวอย่างงานสำคัญที่ถูกจัดขึ้นในเมืองเอดินบะระ ได้แก่ เทศกาลศิลปะนานาชาติ Fringe ภาพยนตร์ วิทยาศาสตร์ งานหนังสือเด็ก เพลงแจ๊ส และเพลงพื้นบ้าน ในช่วงเทศกาลเหล่านี้ โดยเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคมหรือช่วงหน้าร้อนของสหราชอาณาจักร ที่เมืองเอดินบะระจะมีจัดงานเทศกาลประจำปีที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมา ที่เมืองนี้เป็นจำนวนมาก จนทำให้เมืองเอดินบะระติดอันดับเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับ สองของสหราชอาณาจักรรองจากลอนดอน[2]
นอกจากนั้น เมืองเอดินบะระยังเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็น "เมืองที่เป็นมิตรกับเด็ก" (The Child Friendly City) เนื่องจากภายในเมืองมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับเด็กมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์วัยเด็กและเรื่องเล่าของผู้คน (Museum of Childhood and People’s Story) สวนสัตว์ที่มีศูนย์การศึกษาที่เคลื่อนไหวได้จริง (Dynamic Education Centre) โลกแห่งผีเสื้อและแมลง (Butterfly & Insect World) และโลกทะเลลึก (Deep Sea World) เป็นต้น
ในแง่ของเศรษฐศาสตร์ เมืองเอดินบะระเป็นเมืองศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของสหราช อาณาจักรรองจากลอนดอนและใหญ่เป็นอันดับห้าของยุโรป โดยมีมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ถึงสามแห่งด้วยกันคือมหาวิทยาลัยเอดินบะระ มหาวิทยาลัยแฮเรียต-วัตต์ และมหาวิทยาลัยเนเปียร์

**************************************************************************
เคมบริดจ์
เคมบริดจ์ (Cambridge) เป็นเมืองมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ในอังกฤษ สหราชอาณาจักร และเป็นศูนย์กลางการปกครองของเคมบริดจ์เชียร์ เมืองอยู่ห่างจากลอนดอนไปทางเหนือ-ตะวันออกเฉียงเหนือ ประมาณ 80 กม. และ ห้อมล้อมไปด้วยเมืองและหมู่บ้านขนาดเล็กจำนวนหนึ่ง เมืองนี้ยังเป็นหัวใจของศูนย์เทคโนโลยีชั้นสูง ที่รู้จักกันในชื่อ ซิลิคอนเฟน (Silicon Fen) และเป็นส่วนสำคัญของเขตอุตสาหกรรมความรู้ ออกซ์ฟอร์ด-เคมบริดจ์อา ร์ก (Oxford-Cambridge Arc)

**************************************************************************
สโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด
(อังกฤษ: Manchester United Football Club) เป็นสโมสรฟุตบอลที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ มีสนามเหย้าคือโอลด์แทรฟฟอร์ดในเมืองแมนเชสเตอร์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสโมสรหนึ่ง โดยชนะเลิศแชมป์ลีก 19 ครั้ง (เอฟเอ พรีเมียร์ลีก/ดิวิชัน 1) ชนะเอฟเอคัพ 11 ครั้ง ลีกคัพ 3 ครั้ง ยูโรเปียนคัพ/ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 3 ครั้ง และชนะ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ อินเตอร์เนชันแนลคัพ และ ยูโรเปียนซูเปอร์คัพ อย่างละ 1 ครั้ง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรกีฬาที่ได้รับความนิยมสูง โดยแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมีสถิติผู้เข้าชมมากที่สุดในฟุตบอลอังกฤษตลอด 34 ฤดูกาล ยกเว้นในฤดูกาล 1987–89 ที่ปรับปรุงสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด[2] แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นสโมสรหนึ่งในกลุ่มจี-14

**************************************************************************
ลอนดอน
ลอนดอน เป็นเมืองหลวงของอังกฤษ และสหราชอาณาจักร และเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรป เป็นเมืองที่มีศูนย์กลางทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกลอนดอนเป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญทางธุรกิจ การเมือง วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของโลก เป็นผู้นำด้านการเงิน[9] การเมือง การสื่อสาร การบันเทิง แฟชั่น และศิลปะ ในอดีตเป็นเมืองหลวงของโลก เป็นเมืองที่เจริญที่สุดในโลก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เป็นเมืองที่มีอิทธิพลไปทั่วโลก ถือกันว่าเป็นเมืองสากลหลักของโลก จีดีพีของลอนดอน คิดเป็นร้อยละ 19.5 ของสหราชอาณาจักรลอนดอนมีประชากรประมาณ 7.5 ล้านคน (ข้อมูลเมื่อปี พ.ศ. 2549) และประมาณ 12 - 14 ล้านคนถ้ารวมนครหลวงลอนดอนและปริมณฑล ลอนดอนเป็นเมืองที่ประกอบด้วยหลายชนชาติอย่างมาก ประชากรมีความหลากหลายทั้งด้านเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และภาษา ซึ่งประมาณว่ามีมากกว่า 300 ภาษา[10] เราเรียกชาวลอนดอนว่า ลอนดอนเนอร์ (อังกฤษ: Londoner)
ลอนดอนเป็นศูนย์กลางการคมนาคมในระดับนานาชาติ และเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของทวีปยุโรป โดยสนามบินที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน คือ ท่าอากาศยานนานาชาติฮีทโธรว์

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้